ธุรกิจเครือข่ายมันไม่ดี ใคร ๆ ก็บอกมาแบบนั้น



พอได้ยินคำว่าธุรกิจเครือข่าย หลายคนร้องยี้ บอกว่ามันคือธุรกิจแมลงสาบ ทำนาบนหลังคน หลอกลวง ไม่ดี แต่ผมอยากถามกลับว่า คุณเคยศึกษามันจริง ๆ บ้างไหม หรือว่าฟังคนอื่นพูดอีกที ผมเชื่อว่าคนส่วนมากที่ไม่ชอบธุรกิจเครือข่าย ไม่เคยรู้จักธุรกิจนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ อ่าว..ในเมื่อคุณไม่เคยศึกษามันเลย ทำไมคุณถึงเกลียดธุรกิจเครือข่ายละครับ


คุณว่าอาชีพหมอคืออาชีพที่ดีไหมครับ แน่นอนว่าหมอคืออาชีพที่ดีถูกไหม แต่..หมอทุกคนเป็นคนดีทั้งหมดหรือเปล่าละครับ ธุรกิจเครือข่ายก็เหมือนกัน เป็นแค่อาชีพ ๆ หนึ่งเท่านั้น แต่คนต่างหากที่ไม่ดี คนไม่ดี ผู้นำไม่ดี นักธุรกิจเครือข่ายไม่ดี ควรโทษที่คน ไม่ใช่โทษที่อาชีพ ทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป อยู่ที่ว่าคุณจะได้พบเจอคนแบบไหนต่างหาก


ธุรกิจเครือข่ายก็เหมือนธุรกิจทั่วไป ผลิตสินค้าและบริการแล้วก็ขาย แค่แตกต่างตรงที่วิธีการทำธุรกิจ ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ แบบนี้ก็แล้วกัน มีร้านค้าอยู่สองร้าน สินค้าภายในร้านเหมือนกันทุกอย่าง ร้านแรกคือธุรกิจทั่วไป ส่วนร้านที่สอง คือธุรกิจเครือข่าย



ร้านแรก ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ นา ๆ เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้าน เมื่อมีลูกค้าเข้าร้าน ธุรกิจเค้าถึงจะมีกำไร ลูกค้าก็เปรียบเหมือนเครือข่ายผู้บริโภคนั้นแหละ ส่วนเจ้าของร้านก็คือเจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค และถ้าเจ้าของร้านอยากมีรายได้เพิ่ม ต้องการยอดขายเพิ่ม อยากได้ลูกค้าเยอะขึ้น ก็ต้องลงทุนเพิ่ม โดยการเปิดสาขาที่ 2 3 4 5 ....


ร้านที่สองธุรกิจเครือข่าย เค้าไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย เสียแรงโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เค้าก็ยังต้องการให้ลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้านอยู่ดี เค้าจึงคิดรูปแบบเครือข่ายขึ้นมา โดยให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการทำการตลาดประชาสัมพันธ์ หรือพูดง่าย ๆ คือ เค้าลงทุนเปิดร้านแล้วให้คุณหาคนเข้าร้าน


สิ่งที่ธุรกิจเครือข่ายจะได้คือลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้าน ส่วนคุณได้ส่วนแบ่ง เพราะธุรกิจเครือข่ายบอกว่า ทุกคนที่คุณพาเข้ามาซื้อของที่ร้าน เป็นสินทรัพย์ของคุณ คุณคือเจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค ดังนั้นทุกการซื้อสินค้าของคนในเครือข่ายที่คุณสร้างขึ้น บริษัทจึงต้องจ่ายส่วนแบ่งให้คุณ เพราะคุณคือเจ้าของ



ถ้าธุรกิจเครือข่ายต้องการรายได้เพิ่ม สิ่งที่เค้าทำคือ ทำทุกวิถีทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณสามารถสร้างเครือข่ายผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้นและรองรับการเติบโตของเครือข่ายผู้บริโภค เช่นระบบอบรม ระบบส่งเสริมการขายต่าง ๆ ขยายสาขาเพิ่มทั่วประเทศ ออกนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งจัดทริปท่องเทียว โดยทั้งหมดนี้บริษัทเค้าลงทุนให้คุณ คุณไม่ต้องลงทุนเองซักกะบาท


ส่วนคุณ รายได้จะเพิ่มขึ้นตามกำลังการบริโภคสินค้า ยิ่งเครือข่ายของคุณขยายใหญ่ขึ้น ปริมาณในการบริโภคก็เพิ่มขึ้น จาก 1 คน เพิ่มเป็น 2 คน จาก 2 เพิ่มเป็น 4 จาก 4 เพิ่มเป็น 8 จาก 8 เพิ่มเป็น 16 คน ขยายแบบทวีคูณ นี้แหละครับพลังของเครือข่าย มันไม่ได้จำเป็นว่าคุณต้องชวนคนเป็นหมื่นเป็นแสนคนเพียงคนเดียว คุณอาจรู้จักแค่ 2 คน ชวนคนแค่ 2 คน แต่ 2 คนนี้ อาจไปชวนคนได้เป็น 10 และ 10 คนนี้ อาจไปชวนคนได้เป็น 50 คน


เห็นไหมครับ ธุรกิจของคุณโตขึ้น เครือข่ายขยายขึ้นใหญ่ขึ้น โดยที่คุณอาจแนะนำแค่สองคน นี้แหละพลังของเครือข่าย พลังของการบอกต่อ ธุรกิจเครือข่ายบอกว่า อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นภายใต้ซื้อของคุณ ถือว่าเป็นผลงานของคุณ เครือข่ายอาจขยายออกไป โดยที่คุณไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันคือผลงานของคุณ คุณคือเจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค เพราะนี้คือธุรกิจของคุณ



ยังไม่จบนะครับ ในเมื่อนี้คือธุรกิจของคุณ เครือข่ายผู้บริโภคคุณคือคนสร้างขึ้น คุณคือเจ้าของเครือข่าย ในเมื่อมันคือสินทรัพย์ของคุณ คุณจึงสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกของคุณได้ แบบนี้ดีไหมครับ คุณอาจเป็นหมอมีเงินเดือนสี่ห้าหมื่น แต่ถ้าคุณตายไป คุณให้ลูกของคุณ มาเป็นหมอรับเงินเดือนแทนคุณเลยได้ไหม ไม่ได้ถูกไหม


อาชีพบนโลกนี้ มีไม่กี่อาชีพที่สามารถเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกให้หลานได้ แต่หนึ่งในนั้นคือธุรกิจเครือข่าย เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย คุณมั่นใจได้เลย ว่าเมื่อใดที่คุณไม่อยู่แล้ว ทำงานไม่ได้แล้ว ลูก ๆ และครอบครัวของคุณจะไม่ลำบากแน่นอน เพราะคุณได้สร้างธุรกิจ สร้างอนาคตไว้ให้พวกเค้าแล้ว


มาถึงตรงนี้ คุณคิดว่าธุรกิจเครือข่ายดีหรือไม่ดีกันแน่ละครับ ถามใจคุณดู ทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้เชียให้คุณสนใจธุรกิจเครือข่ายนะ เพราะคุณจะสนใจหรือไม่สนใจ ไม่เกี่ยวกับผม แต่มันเกี่ยวกับคุณ คุณทำคุณก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำก็ใช้ชีวิตแบบเดิมไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร แต่ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ก็เพราะอยากบอกว่าอาชีพธุรกิจเครือข่ายมันดี แต่ที่ไม่ดีคือคน คนต่างหากที่หลอกลวงกันเอง ไม่ใช่ธุรกิจเครือข่าย



บทความแนะนำ
ความแตกต่างระหว่าง ธุรกิจเครือข่ายกับแชร์ลูกโซ่
แนวทางการเลือกธุรกิจเครือข่ายที่ดี